อดีตยอดกองหน้าของทีม “ปีศาจแดง” กับ สโมสรฟุตบอล ดาร์บี้เคาน์ตี้
เวย์น มาร์ค รูนีย์ อดีตยอดกองหน้าของทีม “ปีศาจแดง” กับ สโมสรฟุตบอล ดาร์บี้เคาน์ตี้
เมื่อเอ่ยถึง เวย์น รูนีย์ คงจะไม่มีแฟนบอลพันธุ์แท้ที่จะไม่รู้จักเขา อดีตยอดกองหน้าของทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ปัจจุบันลงค้าแข้งในตำแหน่งกองหน้าให้กับ ดี.ซี. ยูไนเต็ด ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ สหรัฐอเมริกา “รูนีย์” เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ เกิดวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1985 ที่เมือง ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ
เริ่มตันชีวิตนักเตะที่สโมสรฟุตบอล เอฟเวอร์ตัน ในฐานะนักเตะฝึกหัดของสโมสร ต่อมาก็ได้ย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมของอังกฤษ ล่าสุดมีข่าวว่าได้มีการเซ็นสัญญากับ สโมสรฟุตบอล ดาร์บี้เคาน์ตี้ ในลีกแชมเปี้ยนชิป เพื่อทำหน้าที่ผู้เล่นและพร้อมเรียนรู้ในการทำหน้าที่เป็นโค้ช แล้วจากเข้าเริ่มงานตั้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ. 2020 ดังนั้นเราจะมาทำความรู้จักกับเขาเพิ่มขึ้น เวย์น มาร์ค รูนีย์ (Wayne Mark Rooney ) เวย์น รูนีย์ เกิดเมื่อ 24 ตุลาคม 1985 ปัจจุบันอายุ 33 ปี ที่ย่านคร็อกซ์เทธของเมืองลิเวอร์พูล
ตั้งแต่ “รูนีย์” เริ่มฝึกฟุตบอลตัวเค้าเองได้รับแรงบันดาลใจจากครอบครัว ตัวเค้าเองมีความปรารถนาจะเล่นให้เอฟเวอร์ตันมาก และมีภาพที่ประทับใจผู้คนคือการสวมเสื้อยืดที่พิมพ์ลาย สกรีนว่า “Once a blue, Alway a blue “ เวย์น รูนีย์ เริ่มเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรเอฟเวอร์ตันตั้งแต่ ปี 2001 ในทีมเยาวชน โดยสวมใส่เสื้อหมายเลข 18 แรกเริ่ม รูนีย์ เป็นนักเตะฝึกหัดของสโมสร ได้รับค่าจ้างเพียง 10 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่ในปี 2002 ในนัดที่ เอฟเวอร์ตันเตะกับอาร์เซนอล รูนี่ย์ ที่ได้ลงเล่นด้วยสามารถยิงประตูช่วยให้ทีมชนะได้ในนัดนั้น
หลังจากนั้นรูนีย์ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ
ทำให้เขามีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นจนทำให้ได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ รูนีย์ได้พัฒนาตัวเองขึ้นมาอย่างโดดเด่นทำให้มีหลายๆสโมสร ต้องการดึงตัวเขาไปร่วมทีม ในปีค.ศ. 2004 รูนีย์ในวัย 19 ปีสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ก็ได้ทำการเซ็นสัญญาคว้าตัวรูนีย์มาจากสโมสรเอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 25.6 ล้านปอนด์หรือประมาณ 1300 ล้านบาท ทำให้รูนีย์เป็นนักเตะวัยรุ่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก และยังได้รับค่าเหนื่อยจากสโมสรปีศาจแดงสูงถึง 75,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ประเดิมการลงสนามให้กับทีมในเสื้อหมายเลข 8 แทนที่ของ นิกกี้ บัตต์ จากนั้นก็เปลี่ยนมาสวมเสื้อหมายเลข 10 แทนที่ของ รุต ฟาน นิสเดอร์ลอย ในปี 2006 ในนัดแรกที่ลงสนามให้กับปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 28 กันยายนเป็นเกมส์ในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก พบกับทีมเฟแนร์บาห์เช่ ของตุรกี ซึ่งเป็นนัดที่สร้างที่เสียงให้กับรูนีย์
โดยรูนีย์สามารถทำแฮตทริกได้ในเกมส์นี้ และการทำประตูแรกได้ในพรีเมียร์ลีกคือนัดพี่พบกับทีมอาร์เซนอลในวันที่ 24 ตุลาคมปีค.ศ. 2004 และนับเป็นประตูฉลองวันเกิดครบอายุ 19 ปีของเขาในวันนั้นเองด้วย รูนีย์กลายเป็นนักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในเกมระดับชาติ โดยเขาลงเล่นเป็นตัวสำรองในนัดที่พบกับทีมชาติออสเตรเลียที่ สนามอัพตัน พาร์ค อีกทั้งยังถือว่าเค้าเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้ทีมชาติอังกฤษด้วยวัยเพียง 17 ปี ในเดือนกันยายน 2003 ในเกมส์พี่พบกับทีมชาติมาซิโดเนีย ในปี 2004 มีการแข่งขันฟุตบอลยูโรที่ประเทศโปรตุเกส รูนีย์สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ในการลงเล่น 4 นัดรูนีย์ทำได้สามประตูในนัดที่พบกับ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์และทีมชาติโครเอเชีย
ในปี 2010 รูนีย์มีท่าทีว่าจะไม่ต่อสัญญากับปีศาจแดง เพราะได้รับการติดต่อจากสโมสรยักษ์ใหญ่สเปน คือสโมสรเรอัลมาดริด แต่สุดท้ายวิ่งหนีก็จบลงได้ด้วยดีเมื่อรูนีย์ได้ยอมต่อสัญญาออกไป โดยมีข่าวว่าเขาได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง 250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และเมื่อถึงปี 2014 เขาได้รับการต่อสัญญาออกไปอีกสี่ปีจนถึงปี 2019 และรับค่าเหนื่อยสูงถึง 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อีกทั้งได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นกัปตันทีมคนต่อไป ฤดูกาล 2016 ถึง 2017 เป็นช่วงปลายการค้าแข้งไปกับสโมสร ภายใต้การคุมทีมของ มูรินโญ เขาได้กลายเป็นตัวสำรองมากกว่าตัวจริง แต่เขาก็ได้ทำลายสถิติของ เซอร์บ๊อบบี้ ชาลส์ตัน ที่ยิงประตูได้สูงสุดของสโมสรที่ 249 ประตูลงได้สำเร็จ
โดยเขาสามารถยิงประตูรวมได้ถึงสิ้น 253 ประตู ชีวิตส่วนตัวของเขา รูนีย์สมรสกับคอลีนและมีบุตรด้วยกันสี่คน คือ ไค รูนีย์ เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2009 เคลย์ แอนโทนี รูนีย์ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2013 คิต โจเซฟ รูนีย์ เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2016 และ แคสส์ แม็ค รูนีย์ เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2018 สถิติในการทำประตูของรูนีย์ ในการเล่นให้เอฟเวอร์ตันในฤดูกาล 2002-2004 รูนีย์สามารถทำประตูทั้งในบอลลีกและบอลถ้วย จากการลงเล่นรวม 77 นัดสามารถทำไปได้ 17 ประตูด้วยกัน และกลับมาเล่นให้ทีมอีกครั้งในฤดูกาล 2017 ถึง 2018 ลงเล่นรวม 25 นัดทำไปได้ 11 ประตู ส่วนในการเล่นให้กับที แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตั้งแต่ฤดูกาลที่ 2004 จนถึง 2017 รูนีย์ลงเล่นทุกรายการทั้งพรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ ลีกคัพและบอลยุโรป โดยแยกเป็นบอลพรีเมียร์ลีก 393 นัดยิงได้ 183 ประตู เอฟเอคัพ 40 นัดยิงได้ 22 ประตู ลีกคัพ 20 นัดยิงได้ 5 ประตูและในเกมส์ฟุตบอลยุโรปและอื่นๆลงเล่นรวม 106 นัดยิงได้ 43 ประตู ส่วนในนามทีมชาติอังกฤษ ลงเล่นรวม 120 นัดยิงได้ 53 ประตู
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ kuzugames.com